เมษายน 20, 2025

ยูโอบี จับมือ เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ร่วมเสริมสร้างความยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว

ยูโอบี จับมือ เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ร่วมเสริมสร้างความยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว

กรุงเทพฯ, 2 ธันวาคม 2567 – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับบริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ชั้นนำในประเทศไทย ในโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวของยูโอบี ความร่วมมือครั้งนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวของบริษัทฯ

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO และ Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวของยูโอบี ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนสอดคล้องกับทางธนาคาร เรามีความยินดีที่ได้ต้อนรับบริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ เป็นพันธมิตรในโครงการนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกันในเส้นทางเพื่อการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น”

ในการเข้าร่วมโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวนี้ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ได้ฝากเงินจำนวนมากกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ซึ่งจะถูกจัดสรรไปยังโครงการที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมตามกรอบการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืนของธนาคาร เงินทุนเหล่านี้จะสนับสนุนโครงการยั่งยืนต่างๆ ได้แก่ พลังงานทดแทน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การก่อสร้างอาคารเขียว และโครงการอื่นๆ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs)

นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ในโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ ความร่วมมือนี้ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าสินทรัพย์ทางการเงินของเราจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดูแลโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมเบเกอรี่ บริษัทฯ มุ่งมั่นยกระดับโภชนาการและคุณภาพชีวิตของคนไทย ตลอดจนดำเนินงานให้มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือกับยูโอบีนี้จึงสะท้อนถึงกลยุทธ์ ESG ที่ครอบคลุมของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลดขยะ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชุมชน และการพัฒนาพนักงานเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รวมรายละเอียดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ผลิตภัณฑ์เงินฝากของบริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนผ่านโครงการการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืนของยูโอบีไว้ในรายงานประจำปี

คุณวีระอนงค์กล่าวเสริมว่า “ข้อมูลนี้ถือเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับบริษัทฯ ในการนำไปรวมในรายงานความยั่งยืน และยกระดับความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในเรื่องความโปร่งใสและการรับผิดชอบในความพยายามด้าน ESG พร้อมรับผลตอบแทนที่มั่นคง”

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบแนวคิดการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืนของยูโอบีได้ที่เว็บไซต์ของธนาคาร

# #

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว