เมษายน 19, 2025

“ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์” คว้ารางวัล “ESG Initiative of the Year – Thailand” จากงาน FMCG Asia Awards 2024 ประเทศสิงคโปร์

“ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์” คว้ารางวัล “ESG Initiative of the Year – Thailand”
จากงาน FMCG Asia Awards 2024 ประเทศสิงคโปร์

.
กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ นำโดย นายชูโบดีป ดัส (Mr. Shubhodeep Das) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ไฮไลฟ์ และ ดร.บัณฑิต จำรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ขึ้นรับรางวัล ในโอกาส บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด คว้ารางวัล ESG Initiative of the Year – Thailand สำหรับความมุ่งมั่นด้าน ESG ในงาน FMCG Asia Awards 2024 ณ ประเทศสิงคโปร์ งานประกาศผลรางวัลสุดยิ่งใหญ่ จัดโดย Retail Asia ที่พิจารณามอบรางวัลให้แก่ผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมและยกย่องความเป็นเลิศของผู้ที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ขับเคลื่อนความคิดริเริ่มที่สร้างสรรค์ และดำเนินโครงการที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ

นายชูโบดีป ดัส (Mr. Shubhodeep Das) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ไฮไลฟ์ กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ ภายใต้กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ ได้รับรางวัล ESG Initiative of the Year – Thailand ในฐานะองค์กรที่ได้รับการยอมรับในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีเยี่ยม และมีระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่ทันสมัย ทั้งเป็นต้นแบบของการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชน และส่งเสริมความโปร่งใสและจริยธรรม รางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับนี้ ถือเป็นกำลังใจและตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเรา ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสนับสนุนชุมชน ด้วยความโปร่งใส ยึดมั่นบนหลักธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง

ด้าน ดร.บัณฑิต จำรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้อุทิศตนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เราได้นำระบบโซลาร์รูฟท็อปที่ทันสมัยมาใช้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างพลังงานเทียบเท่ากับ 30 ล้านบาทในสัญญา 20 ปี กับซัพพลายเออร์ โครงการริเริ่มด้านพลังงานทดแทนนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ระบบย่อยก๊าซชีวภาพสำหรับการบำบัดน้ำเสียของบริษัทยังรองรับปริมาณความต้องการออกซิเจนทางชีวภาพ (BOD) ในระดับสูง และสร้างพลังงานหมุนเวียนอีกด้วย บริษัทคาดว่าจะได้รับคาร์บอนเครดิต 1,000 ถึง 1,200 เมตริกตัน (MT) ต่อปีผ่านโครงการริเริ่มนี้

“ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นอย่างแข็งขันด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรและจัดจำหน่ายไปยังตลาดโลก แนวทางนี้สามารถช่วยเปลี่ยนความเป็นอยู่ของเกษตรกรในท้องถิ่น ให้มีรายได้ที่มั่นคงจากความต้องการผลผลิตที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้เรายังมอบโอกาสในการทำงานให้กับพนักงาน ในพื้นที่มากกว่า 600 คน ซึ่งมีส่วนในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตภายในชุมชน ในขณะเดียวกัน กรอบการกำกับดูแลของ Hylife Global Food สร้างขึ้นจากความโปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ และสิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนในการใช้ระบบอัจฉริยะ ช่วยให้สามารถติดตามกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ เพิ่มความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับในห่วงโซ่อุปทาน และรับประกันความโปร่งใสในทุกกระบวนการทางธุรกิจ”

“แนวทางที่ครอบคลุมทุกมิตินี้ จะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนท้องถิ่น และตัวธุรกิจเอง โดยสร้างมาตรฐานสำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารอย่างยั่งยืน” ดร.บัณฑิต กล่าวทิ้งท้าย

* * * * * * * *

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว