เมษายน 19, 2025

ADAGE JEWELRY เผยโฉมความงามเครื่องประดับคอลเลกชั่นใหม่ LOVE & LIGHT Frequency, AWAKEN และ B.5D

ADAGE JEWELRY เผยโฉมความงามเครื่องประดับคอลเลกชั่นใหม่ LOVE & LIGHT Frequency, AWAKEN และ B.5D

“ปลุกจิตใจและจิตวิญญาณสู่ที่สุดของความสมบูรณ์”

 

กรุงเทพฯ ประเทศไทยADAGE Jewelry (อาดาจ จิวเวลรี่) แบรนด์เครื่องประดับระดับไฮเอนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นสากล (Universal) และ ปัญญาอมตะ (Perennial Wisdom) เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ Love & Light Frequency (เลิฟ แอ็นด ไลทฺ ฟรีเคว็นซี) AWAKEN (อเวคเคน) และ B.5D (บี ไฟว์ ดี) บทสะท้อนของโลกของเครื่องประดับระดับไฮเอนด์ และแก่นแท้ของประเพณีดั้งเดิมเกี่ยวกับวัฒนธรรมป๊อป (Pop Culture) แห่งการตื่นรู้ (Awakening) ผสานแนวคิดและเอกลักษณ์การสร้างสรรค์ของ ADAGE ที่มุ่งมั่นตั้งคำถามกับความลึกลับของชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจ ให้รู้สึกถึงความงามและความหมายของตัวตนที่แท้จริง

ADAGE คอลเล็กชั่น:

AWAKEN คือแก่นแท้ของการเป็นอยู่ และความเป็นหนึ่งเดียวในความรักของเรา ด้วยความฉลาดของการดำรงอยู่ คอลเล็กชั่น: AWAKEN เตือนเราว่า เราเป็นมากกว่าความเป็นจริงทางกายภาพ ด้วยการได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงของการรับรู้ที่บริสุทธิ์นอกเหนือจากการรับรู้ธรรมดา เราจึงมีส่วนช่วยในการปลุกจิตสำนึกของมนุษย์

ขอให้เราตื่นขึ้นสู่ความงามที่ไม่มีที่สิ้นสุด และปลดล็อกพลังเวทย์มนตร์ของความอัจฉริยะภายใน

ราคา 91,000 – 221,400 บาท

B.5D หรือ (Be in the 5th Dimension) หมายถึงการรับรู้ที่ตื่นขึ้นมาเกี่ยวกับความเป็นจริงภายใน ความเป็นจริง 3 มิติของเราที่ไม่ได้แบ่งขั้วระหว่างความดีและความเลว แต่รวมเข้ากับหลักการของความรัก ภายในวัฒนธรรมป๊อปของมนุษยชาติที่ตื่นรู้แล้วทั่วโลก ADAGE Jewelry เสนอรหัสใหม่ของการตื่นรู้ B.5D2B1 จะเป็นแรงบันดาลใจให้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวแห่งความรักที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก ราคา 91,500 – 289,000 บาท

LOVE Frequency เชิญชวนให้เปิดใจรับการแสดงตนอันบริสุทธิ์ ที่ซึ่งความรักหลั่งไหลและเติบโตไปสู่สนามควอนตัมแห่งการดำรงอยู่ คอลเลกชันนี้จะเปลี่ยนการรับรู้โลกของเราให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นที่สนุกสนาน สุขสันต์ และสวยงาม ราคา 95,500 – 225,000 บาท

นอกเหนือจากความงดงามของ 3 คอลเลกชันเครื่องประดับใหม่ล่าสุดของ ADAGE ยังมีคอลเลกชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Whispering Truth, Wisdom Graffities, A star is Born, Sacred Geometry, Buddhist Symbols, Deities & Mystical Beings แต่ละคอลเลกชันประกอบด้วยชิ้นงานเครื่องประดับดีไซน์ที่โก้หรู แต่ชัดเจนและแข็งแกร่งในเรื่องคอนเซปต์ที่สะท้อนภูมิปัญญาและพลังแห่งจิตวิญญาณ ภายใต้ความประณีตบรรจงของ แอนน์-มารี เลอ ฟลองเชค (Anne-Marie Le Flanchec) ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์  ผลงานทุกชิ้นสร้างสรรค์ด้วยอัญมณีพิงค์โกลด์ เยลโลว์โกลด์ และไวท์โกลด์ และเครื่องประดับเพชร โดย Adage ใช้เทคนิคการแกะสลักที่วิจิตรบรรจงซึ่งสร้างรูปแบบที่ซับซ้อนที่เรียกว่า “Guillloch”  เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้ในศิลปะการตกแต่งในฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดย Peter Carl Faberg บนไข่ Faberg ที่มีชื่อเสียง นอกเหนือจากความหมายที่แท้จริงของคอลเลกชันที่แตกต่างกันแล้ว ADAGE Jewelry ยังมอบความสง่างามด้วยงานฝีมือที่ไร้ที่ติ

“ADAGE” บุกเบิกขึ้นในปี 2018 ในกรุงเทพมหานคร โดย แอนน์-มารี เลอ ฟลองเชค (Anne-Marie Le Flanchec) ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์ ภายใต้ แบรนด์ดีเอ็นเอและแรงบันดาลใจ Care and Dare to wear the Essential, be Empowered by the True, the Good and the Beautifulความคิดสร้างสรรค์ ความโดดเด่น ความประณีต และความเป็นเอกลักษณ์ทำให้แบรนด์เตะตาและกลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่จิวเวลรีเลิฟเวอร์ได้ไม่ยากนัก รวมถึงชุมชนทางจิตวิญญาณทั่วโลก

ADAGE Jewelry คือความหลงใหลใน 2 ศาสตร์ “เครื่องประดับและความงาม” และ “โลกแห่งเวทย์มนตร์และภูมิปัญญา” ของ แอนน์-มารี รวมกับประสบการณ์กว่า 20 ปี ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ สู่ผลงานไฟน์จิลเวอรีของ ADAGE ที่เป็นมากกว่าเครื่องประดับล้ำค่า แต่เสนอแรงบันดาลที่เตือนเราให้ยึดมั่นและเป็นอยู่ในความเป็นเอกลักษณ์และความสมบูรณ์ของตัวตนที่แท้จริง

ADAGE นำเสนอคอลเล็กชั่นเครื่องประดับที่เป็นเอกลักษณ์ ทันสมัย และสง่างาม แต่บางครั้งก็ดูแกร่งกล้าและเร้าใจ เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงแรงบันดาลใจ และได้รับพลังจากความเชื่อมั่น ความเป็นเอกลักษณ์ ความสมบูรณ์แบบของตัวตนที่แท้จริง เครื่องประดับแต่ละชิ้นเป็นงานศิลปะที่มุ่งมั่นต่อสังคมและจิตวิญญาณ เสมือนสวมใส่เครื่องรางของขลังที่สร้างขึ้นเพื่อตัวเอง เป็นที่พึ่งของความรักและภูมิปัญญา ไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างแถลงการณ์ทางสังคมในเชิงบวก หรือการยืนยันที่มีพลังให้กับตัวเอง ADAGE คือการสวมหัวใจและศรัทธาของคุณอย่างมีสไตล์

แก่นแท้ของการสร้างสรรค์“ ADAGE” คือข้อความแห่งความหวังและศรัทธาสำหรับมนุษยชาติที่ถูกแปลในโลกของเครื่องประดับชั้นดี ผสานทักษะและความชำนาญเหนือชั้นของการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลก งานฝีมือที่ไร้ที่ติในนวัตกรรมเทคนิคเครื่องประดับที่ล้ำสมัยผสมผสานกับการแกะสลัก “Guilloch” อันสลับซับซ้อนของ FABERG สร้างสรรค์ขึ้นในเวิร์กช็อปที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานครโดยเคารพกฎการผลิตที่มีจริยธรรม  ADAGE คือการสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องประดับล้ำสมัยที่เชื่อมโลกวัฒนธรรมแห่งภูมิปัญญาและวัฒนธรรมป๊อปไว้ด้วยกัน

ร่วมชมความงดงามและเป็นเจ้าของเครื่องประดับคอลเลกชั่นต่าง ๆ ของ ADAGE ได้แล้ววันนี้ที่บูติคช้อปในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเกาะสมุย หรือค้นหาพลังและความงามแห่งภูมิปัญญาของ ADAGE เพิ่มเติมได้ที่ www.adagejewelry.com

ติดตามข่าวสารและคอลเล็กชั่นใหม่เพิ่มเติมได้ที่

IG @adagejewelry

FB @adagejewelry

Email: contact@adagejewelry.com

Tel. 02 286 2793

 

 

 

 

 

 

 

****

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว