เมษายน 19, 2025

“ทีมนักวิจัย ม.เกษตรศาสตร์ สกลนคร” เปิดตัว “เครื่องหนังโพนยางคำ” เครื่องหนังย้อมด้วยสีครามธรรมชาติ ทำด้วยมือ สื่อสีด้วยคราม”

“ทีมนักวิจัย ม.เกษตรศาสตร์ สกลนคร” เปิดตัว “เครื่องหนังโพนยางคำ” เครื่องหนังย้อมด้วยสีครามธรรมชาติ ทำด้วยมือ สื่อสีด้วยคราม”


​จากเศษหนังที่เหลือจากกระบวนการผลิตโคเนื้อคุณภาพสูง ของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพยางคำ จังหวัดสกลนคร หรือที่รู้จักในชื่อ Thai-French Beef เนื้อโคขุนโพนยางคำ ผลิตภัณฑ์ GI จังหวัดสกลนคร และการแข่งขันทางการตลาดหนังโค ของประเทศเพื่อนบ้านเอเชีย ได้แก่ อินเดีย สีลังกา อินโดนีเซีย ทำให้มูลค่าหนังโคในประเทศไทยมีมูลค่าต่ำลง ส่งผลให้โอกาสการส่งออกหนังวัวไปต่างปะเทศน้อยลง จากเดิมมูลค่าหนังโคสดกิโลกรัมละ 70 บาท ปัจจุบันราคาหนังโคในประเทศไทยอยู่ที่ราคา 10-15 บาท
​จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร นำโดย หัวหน้าโครงการวิจัย ดร.ประภากรณ์ แสงวิจิตร รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ได้คิดโครงการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มหนังโค โดยผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเชี่ยวชาญการย้อมสีครามธรรมชาติที่เป็นเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ในปี 2564 จากการนำหนังโคขุนโพนยางคำ มาย้อมครามสีธรรมชาติภายใต้สภาวะการย้อมที่เหมาะสม และได้ออกแบบเครื่องหนังกระเป๋า และได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การย้อมหนังด้วยสีครามธรรมชาติ เทคนิคการตัดเย็บเครื่องหนัง ให้กับลูกหลานสมาชิกสหกรณ์โพนยางคำ จำนวน 30 ราย และได้เริ่มทำการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าเครื่องหนังเหล่านี้โดยศูนย์จำหน่ายหลักคือผ่านสหกรณ์โพนยางคำ สกลนคร และจำหน่ายผ่านออนไลน์ Facebook : เครื่องหนังย้อมคราม โพนยางคำ และ Instragram : pone_yangkham

​ดร.ประภากรณ์ แสงวิจิตร หัวหน้าโครงการวิจัย


​ดร.ประภากรณ์ แสงวิจิตร หัวหน้าโครงการวิจัย เผยว่า “จุดเด่นของเครื่องหนังย้อมสีครามธรรมชาตินี้ มาจากองค์ความรู้ผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นเดิมของสกลนคร ที่มีฐานความรู้เรื่องการย้อมเย็นจากต้นคราม อย่างที่เราทราบกันในปัจจุบันสีครามจะมาจากสีครามธรรมชาติและครามสังเคราะห์ ในส่วนสีครามธรรมชาตินี้ตามสมัยโบราณจะนำเสื้อผ้ามาย้อมสีครามธรรมชาติ เพราะด้วยเป็นสีที่มีความคงทน เป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของโทนสีคราม ในจังหวัดสกลนครมีถ่ายทอดองค์ความรู้การปลูกต้นคราม การก่อหม้อ และการย้อมผ้าด้วยครามธรรมชาติกันมานาน การย้อมหนังก็เช่นกันเป็นการย้อมสีครามธรรมชาติบนหนังโคในสภาวะที่เหมาะสม จากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อการเตรียมน้ำย้อมครามที่จะสามารถย้อมเครื่องหนังให้ได้สีคราม”
“ความยากของงานนี้คือการที่ต้องปรับจาก การย้อมครามบนผ้ามาเป็นการย้อมหนังแทน และการศึกษาครั้งนี้นักวิจัยต้องกำหนดสภาวะที่ต้องใช้กระบวนการธรรมชาติทั้งหมดเพื่อการย้อมสีคราม ทีมนักวิจัยได้ใช้เวลาพอสมควรในการหาสภาวะที่เหมาะสมแล้วเป็นกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความเข้มของสีที่เปลี่ยนไปก็มาจากสภาวะความเป็นกรดเป็นด่าง งานวิจัยการย้อมหนังโค นี้ได้พัฒนารูปแบบการก่อหม้อย้อมคราม จากโบราณการย้อมผ้าครามต้องใช้เวลา 7-14 วัน ตั้งแต่การก่อหม้อจนได้สีครามและย้อมผ้าคราม พัฒนามาให้สามารถที่จะก่อหม้อเพียง 1 วัน ก็สามารถย้อมหนังโคได้ อีกทั้งเพื่อการควบคุมคุณภาพของสีคราม เราได้เพิ่มเติมกระบวนการง่ายๆ เพื่อการสังเกตลักษณะทางเคมีและกายภาพของสีคราม ด้วยการตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำย้อม (สูตรโบราณจะทำการทดสอบด้วยการชิมรสเค็มของน้ำย้อม)” ดร.ประภากรณ์ กล่าวปิดท้าย


Facebook: เครื่องหนังย้อมคราม โพนยางคำ
 Instagram: pone_yangkham
 Tel : 086 233 5457 หรือ 063 491 5324

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว