เมษายน 19, 2025

ขึ้นเครื่องบิน กังวลซิลิโคนแตก!!! ได้จริงหรือไม่ ???

ขึ้นเครื่องบิน กังวลซิลิโคนแตก!!! ได้จริงหรือไม่ ???

​อีกความกังวลใจของผู้ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร คือ ความกังวลใจว่าถุงซิลิโคนอาจแตกจากแรงดันในเครื่องบิน ซึ่งความเป็นจริง นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด อธิบายไว้ว่า “ถุงซิลิโคนสำหรับใช้เสริมเต้านมที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ จะทนต่อแรงบีบ (Pressure) ได้สูงมาก หากเปรียบเทียบกับแรงดันในเครื่องบิน ซึ่งน้อยกว่าความดันที่สามารถทำให้ถุงซิลิโคนเต้านมที่ได้มาตรฐานแตกได้ 10-15 เท่า จึงเป็นไปได้ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ถุงซิลิโคนจะแตกหรือรั่วซึมจากการขึ้นเครื่องบิน”

ปัจจัยที่มีผลสำหรับการทนต่อแรงดันของถุงซิลิโคน ได้แก่ ความหนาของถุงซิลิโคน ระยะเวลาที่ใส่และชนิดของซิลิโคนที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท ในปัจจุบันบริษัทผลิตซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจะมีการรับประกันคุณภาพตลอดชีวิต โอกาสแตกหรือรั่วซึมน้อยมากเพียงแค่ ซึ่งน้อย 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์
​ในกรณีผู้ที่เคยศัลยกรรมหน้าอกไปแล้วมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรมาพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพราะอาจมีการแตก (Ruptured Implant) หรือรั่วซึม (Silicone Leakage) ของซิลิโคน ได้แก่
1. หน้าอกผิดรูปไปจากเดิม
2. มีอาการปวด แสบ บริเวณหน้าอก
3. หน้าอกมีขนาดเล็กลงอย่างฉับพลัน
4. หน้าอกแข็ง

ทั้งนี้ บางรายอาจไม่มีอาการใดปรากฏ (Silence Rupture) แต่ทั้งนี้หากตรวจพบว่าซิลิโคนรั่วซึม หรือแตก แพทย์จะทำการผ่าตัดรักษา นำซิลิโคนเก่าออก (Remove Silicone) ล้างเนื้อเยื่อให้สะอาดและเลาะพังผืดออก (Capsulectomy) เพื่อใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไป ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด
***FDA (Food and Drug Administration) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลคุณภาพสวัสดิภาพและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทางด้านสุขภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ แนะนำให้ผู้ที่เคยศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคน ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และแนะนำให้ตรวจด้วย MRI ครั้งแรกหลังจากเสริมหน้าอกไปแล้ว 3 ปี จากนั้นควรตรวจทุก 2 ปี

บทความสุขภาพโดย : นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ปรึกษาเรื่องศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว