เมษายน 19, 2025

Convex จับมือ Fourpattana ซอล์ฟโอเพนนิ่ง “ALL SPACE” แบรนด์บ้านสำเร็จรูปแนวคิดใหม่ ผสานเทคโนโลยี เสริมความแกร่ง-รักษ์โลก ตอบโจทย์คนรักบ้านแท้จริง

Convex จับมือ Fourpattana ซอล์ฟโอเพนนิ่ง “ALL SPACE” แบรนด์บ้านสำเร็จรูปแนวคิดใหม่
ผสานเทคโนโลยี เสริมความแกร่ง-รักษ์โลก ตอบโจทย์คนรักบ้านแท้จริง

​เรียกว่า แค่งาน ซอล์ฟโอเพนนิ่ง เพียงไม่กี่วันในงาน HOME & FURNITURE Sale of the Year 2023 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี “บ้านสำเร็จรูป” แบรนด์น้องใหม่ “ALL SPACE” ก็เรียกเสียงฮือฮา ให้กับผู้เข้ามาเยี่ยมชมบูธได้ไม่เบาเลยทีเดียว ด้วยคุณลักษณะที่มีความแข็งแรง ทนทานที่มีมากกว่า “บ้านน็อคดาวน์” ทั่วไป รวมถึงยังมีการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้าง ตลอดจน ระยะเวลาในการติดตั้งในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ก็พร้อมให้ทุกคนเข้าอยู่อาศัยได้ทันที ถือเป็นอีกหนึ่งแนวคิดของการสร้างบ้านในอนาคต

​คุณวิษณุ จิตศักดานนท์ Co-Founder บริษัท Convex จำกัด เปิดเผยว่า แนวคิดของการเข้ามาทำธุรกิจ “บ้านสำเร็จรูป” เกิดขึ้นจากแรงผลักดันในตัวเอง ที่ชื่นชอบเรื่องของบ้านน็อคดาวน์ แต่ด้วยลักษณะของบ้านน็อคดาวน์ มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี “จุดเริ่มต้นแรกเลยของผม ก็คือ ความต้องการพัฒนา

บ้านน็อคดาวน์ หรือ บ้านสำเร็จรูป ให้มีอายุการใช้งานมากกว่า 15 ปีจนได้มารู้จัก และพูดคุยกับทางบริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการสร้าง และออกแบบบ้านชั้นนำของประเทศไทย จนกลายมาเป็นความร่วมมือกันในที่สุด”
​สำหรับจุดเด่นของบ้านสำเร็จรูป ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น จากความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงอยู่ที่ความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานได้นานกว่า 15 ปี เท่านั้น คุณวิษณุ บอกด้วยว่า “เรายังใช้วัสดุการก่อสร้างที่เป็นเกรดพรีเมี่ยม โดยเฉพาะเหล็ก ที่มีมาตรฐาน มอก. ก่อนนำมาใช้เป็นโครงสร้างสำคัญของบ้าน ซึ่งในส่วนนี้ เราได้นำเหล็กลงไปชุบสารเคลือบกันสนิมทั้งแท่ง 3 รอบ ทำให้สารเคลือบเกาะพื้นผิวของเหล็กได้ทั่วทั้งหมด และมีประสิทธิภาพในการกันสนิมได้อย่างทนทาน และยาวนาน เช่นเดียวกับ บริการติดตั้ง ที่ใช้เวลา เพียง 1-2 วัน ที่มาพร้อมกับบริการหลังการขาย ที่ทางบริษัทพร้อมส่งทีมงานเชี่ยวชาญเข้าไปดูแลให้ตลอดเวลา”

​ยิ่งไปกว่านั้น “บ้านสำเร็จรูป” ALL SPACE ถือเป็นบ้านแนวคิดใหม่ ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ “เพราะเรามีการประกอบบ้าน ในลักษณะจิ๊กซอว์ ที่ประกอบกันที่โรงงาน รวมถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้า และประปา ภายในบ้านไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนยกไปติดตั้งบนพื้นที่ของลูกค้า บ้านสำเร็จรูปของเรา จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษในพื้นที่หน้างาน ระหว่างการติดตั้ง ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมีทีมออกแบบตกแต่งภายใน ดูแลงานตกแต่งภายใน รวมถึง มีทีมงานเดินเรื่องเอกสาร ขอก่อสร้าง และยื่นขอบ้านเลขที่ ต่อหน่วยราชการในพื้นที่ให้กับลูกค้าอีกด้วย ส่วนลูกค้าท่านใด อยากให้มีสวนสวยๆ อยู่รอบบ้าน ทางบริษัทฯ ของเรา ก็มีนักออกแบบ และจัดแต่งสวนลำดับต้นๆ ของประเทศ มาสร้างสรรค์สวนสวยให้กับลูกค้าด้วย”

​ในส่วนของขนาด “บ้านสำเร็จรูป” ALL SPACE มีให้เลือกทั้งหมด 15 แบบ เริ่มต้นตั้งแต่ขนาดพื้นที่ 18 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 200,000 บาท ไปจนถึงบ้านพื้นที่ขนาด 30 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 695,000 บาท ที่มาตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว และปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ “ผมมองว่า ไม่เกิน 3 ปี บ้านสำเร็จรูป จะกลายเป็นตัวเลือกสำคัญในการเลือกสร้างบ้านได้อย่างที่ต้องการ”
อย่างไรก็ดี คุณวิษณุ จิตศักดานนท์ Co-Founder ของบริษัท คอนเวกซ์ จำกัด เปิดเผยด้วยว่าในเร็วๆ นี้ ทางบริษัท คอนเวกซ์ จำกัด และ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด จะมีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับแบรนด์บ้านสำเร็จรูป “ALL SPACE” อีกครั้ง เพื่อตอบรับต่อความต้องการของลูกค้าที่กำลังมีเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว