เมษายน 22, 2025

มูลนิธิศรีอยุธยา และ สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชฯสุดา สิริโสภาพัณณวดี ชวนคนรักษ์สุขภาพและใจบุญ ร่วมแข่งขัน“เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดีเดย์บีบแตรปล่อยจุดสตาร์ท แข่งวิ่ง 10 กิโลเมตรประเภทแรก หกโมงเช้าของวันแข่งขัน ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

มูลนิธิศรีอยุธยา และ สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชฯสุดา สิริโสภาพัณณวดี ชวนคนรักษ์สุขภาพและใจบุญ ร่วมแข่งขัน“เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดีเดย์บีบแตรปล่อยจุดสตาร์ท แข่งวิ่ง 10 กิโลเมตรประเภทแรก หกโมงเช้าของวันแข่งขัน ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ดร.สายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิศรีอยุธยา ร่วมกับ ดร.เสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี,ดร.กิตติศักดิ์ สมพล ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ,คุณสายพิณ พหลโยธิน และ คุณสุดจิตร์ ลือเกียรติอนันต์ แถลงข่าวโครงการจัดงาน “เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” ในวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ หอประชุมเพชรรัตน โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรุงเทพมหานคร

ดร.สายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิศรีอยุธยา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน“เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” ว่า เพื่อหารายได้สำหรับทุนอาหารกลางวันและทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ พร้อมทั้งนำไปพัฒนาทักษะของนักเรียนผ่านกิจกรรมทางการศึกษาของโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้ออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ

“เราตั้งเป้าจะมีประชาชนที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ประมาณ 1,200 คน และมีนักวิ่งกิตติมศักดิ์ องค์ภาคีร่วมโรงเรียนศรีอยุธยาในพระอุปถัมภ์ฯ และหน่วยงานองค์กรเอกชนเข้าร่วมด้วยอีกประมาณ 300 คน สำหรับการแข่งขันจะแบ่งออก เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ

1.วิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร

2. วิ่ง Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร และ

3.วิ่งเน้นเดินเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กิโลเมตร

โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 05.00-10.00 น. ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร”

ดร.เสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในฐานะเป็นประธานจัดงาน กล่าวว่า สำหรับนักวิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร ที่วิ่งเช้าเส้นชัยเป็นคนแรกทั้งประเภทหญิงและชายจะได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ก็ยังมีถ้วยรางวัล ประเภทนักวิ่งมาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร แบ่งประเภท ชาย-หญิง และ ช่วงอายุ ดังนี้ ชาย รุ่นอายุ 16-29 ปี/รุ่นอายุ 30-39 ปี/รุ่นอายุ 40-49 ปี /รุ่นอายุ 50-59 ปี /รุ่นอายุ 60-69 ปี และรุ่น อายุ 70 ปีขึ้นไป หญิง รุ่นอายุ 16-29 ปี /รุ่นอายุ 30-39 ปี/รุ่นอายุ 40-49 ปี/รุ่นอายุ 50-59 ปี และรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป ประเภทนักวิ่ง Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร แบ่งประเภทชาย-หญิง และช่วงอายุ ดังนี้ ชาย รุ่นอายุต่ำกว่า 5 ปี /รุ่นอายุ 16-39 ปี /รุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไป หญิง รุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี /รุ่นอายุ 16-39 ปี และรุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไป

นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนทั่วไปที่สนใจจะเข้าร่วม “เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” ในครั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครพร้อมส่งหลักฐานการโอนเงินผ่าน Google From ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 โดยโอนเงินเข้าบัญชีฝ่ายจำหน่ายบัตร เหรัญญิก ชื่อสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ ฯ ธนาคารกสิกรไทย สาขารางน้ำ เลขที่บัญชี 184-8-07763-8
“นักวิ่งกิตติมศักดิ์ (VIP)เสียค่าสมัครคนละ 1,000 บาท

สามารถเลือกลงแข่งขันได้ทุกระยะ ได้รับบัตรแสดงตัวตน(BIB Number) /เสื้อที่ระลึก/กระเป๋า/เหรียญ Finisher และ อาหาร สำหรับนักวิ่งทั่วไป เสียค่าสมัครคนละ 500 บาท ต้องระบุประเภทของการแข่งขัน คือ วิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร /วิ่ง Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร หรือ วิ่งเน้นเดินเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยแต่ละท่านที่สมัครเข้ามาจะต้องระบุประเภทอย่างชัดเจน ในใบสมัคร และจะได้รับบัตรแสดงตัวตน(BIB Number) /เสื้อที่ระลึก/เหรียญ Finisher และ อาหาร”

สำหรับบรรยากาศภายในงานแถลงข่าวคึกคักไปด้วย เหล่าคนดัง ศิลปิน ดารา และศิษย์เก่าชาวศรีอยุธยา อาทิ คุณสุ่ย-พรนภา เทพทินกร ,คุณจ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม,คุณอนันต์ เสมาทอง (อ้วน รีเทิร์น) ,อั๋น-อัครพรรฒ บุนนาค,คุณเมนี่-ดร.ภาดาภัสสรณ์ ภาดาพิลาสธานันทร์,คุณต๊อบ-วุฒินันทน์ นาฮิม ผู้ประกาศข่าวช่อง Top News ฯลฯ ที่มาร่วมแรงร่วมใจหาทุนอาหารกลางวันและทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในครั้งนี้

คุณต๊อบ-วุฒินันทน์ นาฮิม ศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ และอดีตนักเรียนทุนอาหารกลางวัน ย้อนเล่าชีวิตในวันเรียนที่โรงเรียนศรีอยุธยาฯ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ว่า ด้วยความที่ทางบ้านขัดสน คุณแม่เป็นแม่ค้า ส่วนคุณพ่อเป็นพนักงานขับรถ ทำให้ตัวเองต้องยื่นเรื่องขอรับทุนการศึกษา และ ทุนอาหารกลางวันควบคู่กัน ไปกับทางอาจารย์แนะแนวของโรงเรียน ด้วยข้อจำกัด การสอบถามความต้องการและสถานะทางบ้าน ทำให้พลาดโอกาสได้ทุนการศึกษาใหญ่ แต่ก็ไม่เสียใจแม้จะรับแค่ทุนอาหารกลางวันจำนวนเงินไม่เยอะมาก แต่ก็ทำให้ตนสามารถดำรงชีวิต และกลายเป็น ต๊อบ-วุฒินันทน์ นาฮิม จนถึงทุกวันนี้ได้

“สมัยนั้นตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุนอาหารกลางวันจะได้รับวันละ 80 บาท ต่อวัน สัปดาห์หนึ่งจะได้เงิน 400 บาท โดยอาจารย์แนะแนวจะเรียกไปรับเงินทุกวันจันทร์ ต่อมาก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันละ 100 บาท ถามว่าเยอะไหม ไม่เยอะ แต่ผมอยู่ได้ เพราะผมทานแค่ข้าวราดแกงกับน้ำเปล่าบ้าง ก๋วยเตี๋ยวกับน้ำอัดลมบ้าง บางวันก็ทานขนมบ้าง เป็นอย่างนี้ทุกวัน จนบางครั้งผมมีเงินเหลือสามารถจ่ายเป็นค่ารถเมล์ประจำทางจากบ้านมาโรงเรียน จากโรงเรียนกลับบ้าน”

คุณต๊อบ-วุฒินันทน์ กล่าวว่า เมื่อก่อนตอนที่เราเป็นเด็กรับทุนอาหารกลางวันไม่เคยรู้เลยว่า โรงเรียนหาเงินเป็นทุนค่าอาหารกลางวันมาให้เราได้อย่างไร แหล่งที่มาของเงินมาจากที่ไหน จนเราโตขึ้นถึงรู้ว่าเงินแต่ละบาทที่หามาให้เราเป็นทุนค่าอาหารกลางวันไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างเช่นวันนี้ที่ มูลนิธิศรีอยุธยา และ สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ จัดงาน“เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” ทำให้ตนตระหนักและรู้ซึ่งถึงที่มาของทุนค่าอาหารกลางวัน ฯ ทุกท่านที่ลงทุนลงแรงหามาให้พวกเรานั้น ท่านต้องเหน็ดเหนื่อยกันอย่างมาก ทำให้ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสตนจะกลับมาช่วยโรงเรียนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงกาย แรงทรัพย์ ในฐานะศิษย์เก่าฯ

ประชาชนทั่วไปที่สนใจจะเข้าร่วมการแข่งขัน“เดิน-วิ่ง การกุศล Run for Lunch # 2 วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน” หรือต้องการบริจาคเงินสมทบกองทุน “วิ่งเพื่อน้องกองทุนอาหารกลางวัน”

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณวรรณา แย้มเยื้อน เบอร์โทร 084-700-3520 ,คุณนงรัมภา ตันติพุกนนท์ เบอร์โทร 086-922-5361 ,คุณสหทัย พรสุริยกานต์ เบอร์โทร 081-340-0613,อาจารย์พรทิพย์ หนูนิมิต

หรือสมัครได้ที่ลิงก์ https://bit.ly/RUN-FOR-LUNCH-2024 / Line id :@fanaticrun

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว