เมษายน 19, 2025

โฮปฟูล จับมือ ม.มหิดล วิจัยอาหารเสริมสมุนไพรเบต้าเฮิร์บเจ้าแรกในไทย หวังยกระดับสุขภาพคนไทย

โฮปฟูล จับมือ ม.มหิดล วิจัยอาหารเสริมสมุนไพรเบต้าเฮิร์บเจ้าแรกในไทย หวังยกระดับสุขภาพคนไทย


เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการวิจัยผลลัพธ์จากการทานอาหารเสริมในมนุษย์ โดยพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท โฮปฟูล จำกัด กับ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำโครงการวิจัยผลการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพร Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) ต่อการเปลี่ยนแปลงสุขภาพในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อกลุ่มอาการเมตาบอลิก (ผู้ที่มีร่างกายเผาผลาญอาหารผิดปกติ)
โดยมีพิธีลงนามเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดยคุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮปฟูล จำกัด (Hopeful) พร้อมด้วย รศ.ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล , อ.ดร.จันทร์จิรา โพธิ์สัตย์ และ อ.ดร.จิรายุ หลายนามเพ็ชร อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยตรวจวิจัยคุณภาพอาหารและโภชนาการ (ARFaN) ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อีกทั้งยังมีบริษัทพาร์ทเนอร์ในเครือบริษัท โฮปฟูล จำกัด เข้าร่วมงานและเป็นสักขีพยานในพิธีครั้งนี้


รศ.ดร.สราวุธ เทพานนท์ (คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล) ได้กล่าวที่มาของโครงการนี้ช่วงหนึ่งว่า “รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสในการขยายความร่วมมือกับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มมิติในการเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น” และได้กล่าวต่อถึงความสำคัญของโครงการบางช่วงสรุปใจความสำคัญได้ว่า “สาธารณสุขควรเข้าถึงในทุกมิติ ก่อนหน้านี้การร่วมงานกับภาคเอกชนเป็นไปได้ยาก แต่ปัจจุบันได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งเป็นการดี เพราะมิติของโภชนาการและอาหารนั้นสำคัญ ไม่เพียงแค่การผลิตงานวิจัย นวัตกรรมเพื่อสุขภาพขึ้นมา แต่สิ่งที่คิดและวิจัยขึ้นมาต้องสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จริงด้วย การมีเอกชนเข้ามาร่วมจึงเป็นการตอบโจทย์ในเรื่องนี้”
ต่อมาคุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮปฟูล จำกัด (Hopeful) ได้กล่าวถึงที่มาของความร่วมมือครั้งนี้ว่า “จุดประสงค์หลักในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้ คือการเสริมสร้างความตระหนักรู้ของประชาชนชาวไทยเกี่ยวกับความสำคัญของโภชนาการอาหารมากยิ่งขึ้น หากงานวิจัยในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะเป็นเครื่องยืนยันพิสูจน์ได้ว่าการเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยบรรเทาอาการป่วยที่เป็นอยู่ได้ โฮปฟูลจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับและมีโอกาสทำวิจัยร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ถือว่าเป็นมหาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ”

คุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ได้กล่าวกับพาร์ทเนอร์ว่า ผลวิจัยอาหารเสริมสมุนไพร Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) จะได้ใช้เวลาประมาณ 10 เดือน ซึ่งบริษัท โฮปฟูล จำกัด (Hopeful) คาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย แต่ยังเป็นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในระดับชาติ บริษัท โฮปฟูล จำกัดและมหาวิทยาลัยมหิดลต่างหวังว่าผลิตภัณฑ์ Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) จะสามารถช่วยผู้ป่วยเบาหวานและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้มากขึ้น


ก่อนหน้านี้ บริษัท โฮปฟูล จำกัด นำโดยคุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ได้นำผลิตภัณฑ์ Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) และ Beta Herb Tea (ชา เบต้าเฮิร์บที) พร้อมผลวิจัยของมะระขี้นก เข้าร่วมงานประชุมเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้าน ครั้งที่ 11 ณ โรงแรมรอยัลนาคาราและคอนเวนชั่นฮอลล์หนองคาย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน (อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก) เป็นประธาน ซึ่งผลิตภัณฑ์ Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) และผลวิจัยของมะระขี้นกได้รับความสนใจจากประชาชนผู้เข้าร่วมงานและแขกผู้ใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศอย่างมาก

————————————————–

You may have missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว