มิถุนายน 21, 2025

องค์กรสวัสดิภาพสัตว์เผยโศกนาฏกรรมสุดทารุณ : สังหารหมู่วาฬเกือบ 250 ตัว ที่หมู่เกาะแฟโร

องค์กรสวัสดิภาพสัตว์เผยโศกนาฏกรรมสุดทารุณ : สังหารหมู่วาฬเกือบ 250 ตัว ที่หมู่เกาะแฟโร

20 มิถุนายน 2568, กรุงเทพฯ – เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วาฬนำร่องจำนวน 246 ตัว ถูกต้อนเข้าอ่าวเลย์นาร์ ณ หมู่เกาะแฟโร และถูกรุมฆ่าอย่างทารุณด้วยมีดปลายแหลมที่เรียกว่า “แลนซ์ไนฟ์” จากรายงานของผู้อยู่ในเหตุการณ์ พบว่าเหยื่อที่เป็นแม่วาฬที่กำลังตั้งท้องกว่า 30 ตัว และลูกวาฬเล็กๆ อีกจำนวนมากที่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้แน่ชัด องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศเดนมาร์ก (World Animal Protection Denmark) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีของหมู่เกาะแฟโร ยุติการล่าอันโหดร้ายนี้โดยทันที


วาฬฝูงใหญ่แสดงอาการหวาดกลัวอย่างรุนแรง ถูกเรือติดเครื่องยนต์ไล่ล่าเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะถูกต้อนเข้าสู่น้ำตื้นในอ่าวและถูกลากขึ้นฝั่ง บางตัวถูกเกี่ยวด้วยตะขอโลหะที่แทงเข้าไปในรูหายใจ ซึ่งเป็นบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกอย่างยิ่ง สัตว์ที่มีชีวิตและความรู้สึกมากกว่า 246 ตัว ถูกฆ่าทิ้งในน้ำทะเลซึ่งค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มนองไปด้วยเลือดที่พุ่งทะลักจากบาดแผลทั่วลำตัววาฬ มีรายงานว่า วาฬหลายตัวตายลงอย่างช้า ๆ ทั้งจากเลือดที่ทะลักไม่หยุด หรือจากการจมน้ำทะเลที่ถูกละเลงไปด้วยเลือด จากภาพวิดีโอของ Sea Shepherd Global เผยให้เห็นว่า ระยะเวลาในการฆ่าแต่ละครั้งอาจใช้เวลานานถึง 30 นาที ท้ายที่สุด ซากวาฬไร้ชีวิตลอยเกลื่อนทั่วอ่าว บาดแผลฉกรรจ์เป็นทางยาวบริเวณลำคอ สร้างความน่าหดหู่ แม่วาฬที่กำลังตั้งท้องหลายตัว รวมถึงลูกวาฬที่ดูเหมือนเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ถูกโยนทิ้งลงในถังขยะ ผู้อยู่ในเหตุการณ์จาก Sea Shepherd ได้ให้ข้อมูลกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งร่วมกับองค์กรอนุรักษ์สัตว์จากทั่วโลก จนนำไปสู่การร่วมประณามการล่านี้ว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม


กิตเต้ บุคฮาเว (Gitte Buchhave) ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศเดนมาร์ก กล่าวว่า “มันช่างเหลือเชื่อและน่าสลดใจที่เรายังคงเห็นการฆ่าสัตว์จำนวนมากด้วยวิธีสุดโหดแบบนี้ในยุคปัจจุบัน”
พร้อมกล่าวเสริมว่า “แม้จะอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ก็ไม่มีสิทธิ์ใดจะมาทำลายสัตว์ที่มีชีวิตและความรู้สึกเช่นนี้ วัฒนธรรมไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำอันโหดร้าย” ขณะนี้ องค์กรฯ กำลังยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลหมู่เกาะแฟโรโดยตรง เพื่อขอให้ออกกฎหมายห้ามการล่าโลมาและวาฬนำร่องอย่างเด็ดขาด


กิตเต้ บุคฮาเว กล่าวถึงเป้าหมายว่า “เราได้พยายามพูดคุยกับทางการมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ต้องเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้รัฐบาลแฟโรเลิกยุ่งเกี่ยวกับการล่าสัตว์ที่อยู่ร่วมโลกกับเรามาอย่างยาวนาน พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรมีที่ยืนในสังคมสมัยใหม่ และแม้แต่ประชาชนชาวแฟโรเองก็เริ่มตั้งคำถามกับประเพณีนี้แล้ว ถึงเวลาแล้วที่การฆ่าเหล่านี้ควรถูกเก็บไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ในโลกยุคปัจจุบัน”
ผู้ล่าวาฬมักอ้างว่า “มีดแลนซ์ไนฟ์” สามารถคร่าชีวิตสัตว์ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่จากรายงานปี 2023 ชื่อ Unravelling the Truth – Whale Killing on the Faroe Islands กลับพบว่า “มีดเพียงทำให้สัตว์เป็นอัมพาต และตัดเส้นเลือดใหญ่เท่านั้นแต่สัตว์ยังไม่ตายทันที หากยังรู้สึกเจ็บปวด และยังมีสติอยู่ในขณะที่ค่อย ๆ ตายอย่างทุกข์ทรมาน”

โชคดี สมิทธิ์กิตติผล หัวหน้าฝ่ายงานรณรงค์ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภาพวาฬจำนวนมากถูกไล่ล่าและฆ่าอย่างโหดร้ายสะท้อนให้เห็นถึงการเพิกเฉยต่อชีวิตและความรู้สึกของสัตว์อย่างสิ้นเชิง และสะท้อนถึงแนวคิดที่ฝังรากลึกในสังคมมนุษย์ ที่ยังมองสัตว์เป็นเพียงเครื่องมือให้ความบันเทิงหรือผลประโยชน์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีหัวใจ และสามารถเจ็บปวดหรือทนทุกข์ได้”
​“แนวคิดเช่นนี้ จึงทำให้เรายังเห็นโลมาและสัตว์ทะเลหลายชนิดถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในบ่อคอนกรีตแคบ ๆ และถูกฝึกให้แสดงต่อหน้าผู้ชมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงเพื่อความสนุกของมนุษย์ ทั้งที่สัตว์เหล่านี้ควรได้ว่ายอิสระในมหาสมุทร เราต้องทบทวนว่าเรากำลังให้คุณค่ากับชีวิตสัตว์แบบใด ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด จากการใช้สัตว์เพื่อความบันเทิง มาเป็นการเคารพในสิทธิและเสรีภาพของพวกเขาในฐานะเพื่อนร่วมโลกอย่างแท้จริง”

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวาฬ
• วาฬเป็นสัตว์ที่ฉลาดและมีความรู้สึกทางสังคมสูง
• วาฬใช้ชีวิต เดินทาง และล่าเหยื่อร่วมกันเป็นกลุ่มครอบครัว
• สมองของวาฬคิดเป็น 1.5% ของน้ำหนักตัว (มนุษย์ประมาณ 2%)
• วาฬสามารถจำตนเองในกระจก แสดงความเห็นอกเห็นใจ แก้ปัญหา สื่อสารระยะไกล และมีความจำซับซ้อน
เครดิตภาพถ่าย : Sea Shepherd Global

You may have missed